ประวัติเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง
== ประวัติโดยสังเขป...เจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง == กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วแต่ก่อนนี้ตลาดชุมแสง
การเดินทาง ทางน้ำนั้นยังรุ่งเรืองเฟื่องฟูอยู่มาก เพราะตอนนั้นมีการเดินทางอยู่ 2 ทางคือ 1.ทางรถไฟ
2. ทางน้ำ ช่วงนั้นจะเป็นยุคทองของการเดินเรือก็ว่าได้และที่ตลาดชุมแสงจะมีทั้งบ้านเรือนแพอยู่หลายหลัง...และเรือโยงลากจูงสินค้าผ่านมาประจำ... ครั้งนั้นคนเก่าแก่เล่าว่าได้มีท่อนซุงท่อนหนึ่งได้ลอยมาติดที่อยู่ที่ปากคลองจระเข้เผือก...แล้วไม่ลอยไปไหนอีกเลยติดอยู่ตรงนั้นนั่นเองและก็ได้มีผู้ชายไปเข้าฝันคนในตลาดชุมแสงว่าให้นำท่อนซุงนั้นมาแกะสลักเป็นรูปเจ้าพ่อ..และได้ตั้งศาลเล็กๆให้ประทับอยู่ตรงปากคลองจระเข้เผือกนั่นเอง เราเรียกท่านว่าเจ้าพ่อคลองจระเข้เผือกเป็นที่เคารพของคนชุมแสงตั้งแต่นั้นมา...ต่อมาไม่นานเจ้าพ่อฯก็ได้เข้าฝันอีกเช่นเคยว่าเจ้าพ่อได้ไปพบรักกับเจ้าแม่เกยไชย..(ตำบลหนึ่งในอ.ชุมแสงค่ะ) ชาวชุมแสงก็ได้ทำการจัดขบวนยกขันหมากไปสู่ขอเจ้าแม่เกยไชย..ตามความประสงค์ของเจ้าพ่อฯและได้อัญเชิญเจ้าแม่เกยไชยมาอยู่ที่ ตลาดชุมแสงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จากนั้นชาวชุมแสงก็ได้ขนานนามว่า "เจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง" สำหรับอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารนั้นที่ชาวชุมแสงประจักษ์ดีและเคารพ
เลื่อมใสนับถือมากๆเห็นจะเป็นเรื่องไฟไหม้...ครั้งหนึ่งที่ได้เกริ่นตั้งแต่แรกแล้วเรื่องความเฟื่องฟูทางการเดินเรือที่ชุมแสงจะมีแพที่เป็นปั๊มน้ำมันด้วยชื่อว่า"สุนทรภัณฑ์" คืนนั้นไฟได้เกิดไหม้แพปั๊มน้ำมันนั้นขณะที่ทุกคนตกใจและชลมุลวุ่นวายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมีคนเห็นว่ามี คนแก่ชาวจีนชาย-หญิงใส่ชุดขาวช่วยกันผลักดันแพที่ไฟไหม้อยู่นั้นออกไปให้อยู่กลางแม่น้ำ ทำให้คืนนั้นไฟไม่ลุกลามไหม้แพชาวบ้านอื่นๆและยังห้องแถวตรงบริเวณริมน้ำและในตลาดอีกที่เป็นบ้านห้องแถวไม้ทั้งหมด...และหลังจากประมาณปี ๒๕๓๖ ไฟได้เกิดใหม้ทีชุมชนหลังโรงสี..อยู่หลังศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่นั้นเองได้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่อีกครั้งแต่จะกิดอะไรขึ้น...(ต่อไปหลังจากนี้จขบ.ขอติดไว้ก่อนนะคะ...ขอข้อมูลแน่นกว่านี้อีกสักหน่อยนะคะ) จะสังเกตเห็นว่าชาวอ.ชุมแสงบ้านเรือนยังเป็นห้องแถวไม้อยู่มาก..ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเลยอายุเป็น 100 กว่าปีแล้วเพราะชาวชุมแสงเชื่อว่าที่อยู่เย็นเป็นสุขและไม่มีเรื่องไฟไหม้เกิดขึ้นอีกเลยก็เพราะบารมีเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสงปกปักรักษา และยังเรื่องทำมาค้าขายด้วยนะคะ เวลาจัดงานฉลองให้เจ้าพ่อเจ้าแม่ฯลูกหลานชาวชุมแสงจะเต็มบ้านเต็มตลาดเลยค่ะ.... จะขอข้ามมาเล่าเรื่องที่เกิดไม่นานมานี่เองประมาณปีที่แล้วที่จ.นครสวรรค์ ที่ชุมชนตรอกโรงลิเก ที่ได้เกิดไฟไหม้ขึ้น และมีบ้านหลังหนึ่งมีรูปเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสงไว้บูชาปรากฎว่าไฟไม่สามารถทำอะไรรูปเจ้าพ่อเจ้าแม่ได้เลยค่ะลองเข้าไปดูรูปนั้นได้ตามลิ้งค์นี้นะคะ เคยนำเสนอแล้วครั้งนึงค่ะ รูปเจ้าพ่อเจ้าแม่...ที่ไฟไม่ไหม้ค่ะ.. งานที่จะจัดฉลองให้กับเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง จะมีปีละ 2 ครั้ง ครั้งแรกประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปีค่ะ (วันเกิดเจ้าพ่อเจ้าแม่) ครั้งที่สองประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน - ต้นธันวาคม ของทุกๆปี (งานประจำปี) และในปีนี้จะตรงกับวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน - ๒ ธันวาคม ๒๕๕๑ ค่ะ วันเสาร์ที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ เป็นวันแห่..ขบวนพาเหรดสวยงามโรงเรียนต่างๆ มังกร เองกอ ฯลฯ ขอเรียนเชิญเพื่อนๆบ้านใกล้เรือนเคียงไปเที่ยวงานประจำเจ้าพ่อเจ้าแม่ฯด้วยนะคะ นี่แหล่ะค่ะศาลเจ้า พ่อเจ้าแม่ที่ชุมแสงที่ได้รับการบูรณะใหม่แล้วและในวันเปิดอย่างเป็นทางการ...พระองค์โสมฯ ก็ได้ทรงเสด็จมาเปิดด้วยพระองค์เองค่ะ (ขออภัยด้วยนะคะถ้าหากว่าใช้คำราชาศัพท์ไม่ถูกต้องนะคะ)
"เจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง"บทความโดยหยวย แซ่กัว
ดังที่กล่าวไปข้างต้น บทความนี้ เขียนโดย นาย หยวย แซ่กัว เนื่องในโอกาสการจัดงานประจำปีเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง
ศาลเจ้าของชาวเรือ
เดิมศาลเจ้าพ่อชุมแสง เป็นศาลที่อยู่ปากคลองจระเข้เผือก ปลูกศาลยกพื้นแบบธรรมดาทั่วไป เป็นศาลที่ชาวเรือกราบไหว้เมื่อก่อน เมื่อก่อนที่เรือจะเข้าคลอง บริเวณใกล้เคียงที่เป็นตลาดในปัจจุบันเป็นป่าพง ถึงฤดูน้ำ น้ำก็ท่วมมิได้มีบ้านเรือนผู้คนอาศัย เป็นทางผ่านไปมาของชาวเรือและ ที่พักจอดเรือของบรรดาพ่อค้าชาวเรือที่ติดต่อซื้อขายกับตำบล หนองบัว (อำเภอหนองบัวในปัจจบัน) บรรดาพ่อค้าวาณิชก็เคารพนับถือบนบานศาลอธิษฐานประการใดก็มักจะเป็นที่สมเจตน์จำนงทุกประการ จนเป็นที่เรื่องลือว่า เจ้าพ่อคลองจระเข้เผือกนี้ ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ถ้าได้กราบไหว้บอกกล่าวเสียก่อนแล้วการเดินทางก็จะปลอดภัย
เมื่อการค้าทางเรือเจริญขึ้นเพราะเป็นปากทางไปสู่ตำบลหนองบัว การติดต่อได้เฉพาะหน้าน้ำเท่านั้นเมื่อน้ำลดเรือเดินไม่ได้ การค้าจึงต้องอาศัยเกวียนลากมารอขนถ่ายที่ปากคลองนี้ จึงมีทั้งชาวเรือและชาวตำบลหนองบัวมาสร้างบ้านเรือนและยุ้งฉางกันขึ้น การติดต่อซื้อขายจึงดำเนินไปได้ตลอดปีเป็นที่ชุมทางของชาวเรือมาจอดรับสินค้า